วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560


Google SketchUp 

เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three-Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นการจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google SketchUP ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆสามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium เป็นต้น


รู้จักกับส่วนประกอบต่างๆของโปรแกรม
ในการเปิดโปรแกรม Google SketchUp ครั้งแรก (หลังจากการติดตั้งโปรแกรม และเลือกแม่แบบในหน้าต่าง Welcome แล้ว) เราจะพบกับหน้าตาของโปรแกรมโดยมีส่วนประกอบหลักดังนี้

Title Bar (แถบไตเติล)
แถบสำหรับแสดงชื่อไฟล์ที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้น โดยในการเปิดโปรแกรมหรือสร้างงานขึ้นมาใหม่ ชื่อไฟล์บนแถบไตเติ้ลจะแสดงเป็น Untitled จนกว่าจะมีการบันทึกและตั้งชื่อไฟล์

Menu Bar (แถบเมนู)
แถบที่รวบรวมคำสั่งต่างๆในการทำงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 8 หมวดด้วยกันดังนี้

File: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับจัดการกับไฟล์งานเช่น การสร้างไฟล์งาน เปิดไฟล์งาน การบันทึก การนำเข้า/ส่งออก การสั่งพิมพ์ เป็นต้น

Edit: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับปรับแต่งแก้ไขเช่น การคัดลอก ลบ ซ่อน/แสดงวัตถุ สร้าง Group/Component เป็นต้น

View: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับจัดการในส่วนของพื้นที่ทำงานเช่น ซ่อน/แสดงแถบเครื่องมือ เส้นไกด์ แกนอ้างอิง เงา หมอก การแสดงผลของเส้น การแสดงผลในส่วนของการแก้ไข Group/Component เป็นต้น
Camera: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับจัดการในส่วนของมุมมองในการทำงานเช่น การหมุน เลื่อน ย่อ/ขยาย เป็นต้น

Draw: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับเรียกใช้เครื่องมือต่างๆในการวาดรูปทรงเช่น กาววาดเส้นตรง เส้นโค้ง สี่เหลี่ยม วงกลม เป็นต้น

Tools: เป็นกลุ่มคำสั่งสำหรับเรียกใช้เครื่องมือต่างๆในการทำงานเช่น Push/Pull การหมุน/ย้ายวัตถุ การสร้างตัวอักษรสามมิติ การวัดขนาด เป็นต้น

Window: เป็นกลุ่มคำสั่งเกี่ยวกับการเรียกแสดงหน้าต่างหรือไดอะล็อกบอกซ์ขึ้นมาเพื่อใช้ร่วมในการทำงานและปรับแต่งค่าต่างๆของโปรแกรม

Help: เป็นกลุ่มคำสั่งเกี่ยวกับคู่มือการแนะนำการใช้งานโปรแกรม ไปจนถึงการลงทะเบียนและการตรวจสอบการอัพเดต

Toolbars (แถบเครื่องมือ)
แถบสำหรับรวบรวมเครื่องมือต่างๆในการทำงาน โดยในขั้นต้นโปรแกรมจะกำหนดแถบเครื่องมือมาให้กลุ่มเดียว (จาก 20 กลุ่ม) คือ Getting Start ซึ่งในการทำงานจริงเครื่องมือเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอต่อการทำงาน เราสามารถที่จะเรียกแสดงแถบเครื่องมือกลุ่มต่างๆได้จากเมนู View > Toolbars แล้วเลือกแถบเครื่องมือที่ต้องการ โดยแถบเครื่องมือที่แสดงอยู่จะมีเครื่องหมายถูกอยู่ที่หน้าคำสั่ง
เพื่อความสะดวกในการทำงานแนะนำให้เรียกแสดงแถบเครื่องมือดังภาพตัวอย่าง ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องมือที่มักจะถูกใช้งานเป็นประจำในการสร้างแบบจำลองสามมิติในเบื้องต้น

Drawing Area (พื้นที่ทำ􀀃งาน)
เป็นพื้นที่สำหรับทำงานซึ่งสามารถที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองไปเป็นมุมมองต่างๆ ทั้งในการทำงานในมุมมองแบบ 2D และ 3D โดยมุมมองแบบ 2D นั้นจะแบ่งออกเป็นด้านบน ด้านหน้า ด้านขวา ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านล่าง และมุมมองแบบ 3D จะถูกเรียกว่า Iso (Isometric)

Drawing Axes (แกนอ้างอิง)
คือเส้นแกนสำหรับอ้างอิงการทำงานเพื่อให้การวาดรูปทรงและการสร้างแบบจำลองในทิศทางต่างๆเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยแกนอ้างอิงจะแบ่งออกเป็น 3 แกนด้วยกันคือ x จะอยู่ในลักษณะของแนวขวาง (แกนสีแดง), y จะอยู่ในลักษณะของแนวลึก (แกนสีเขียว) และ z จะอยู่ในลักษณะของแนวตั้ง (แกนสีน้ำเงิน)
จุดตัดกันระหว่างเส้นแกนทั้ง 3 เส้นจะถูกเรียกว่า Original Point หรือจะเรียกว่าจุดศูนย์กลางของพื้นที่ทำงานก็ได้เช่นกัน โดยตำแหน่งของ Original Point จะมีค่า x, y, z เท่ากับ 0 โดยถ้าค่าตัวเลขเป็นบวกจะอยู่ในทิศทางของเส้นทึบ และถ้าค่าเป็นลบจะอยู่ในทิศทางของเส้นจุดไข่ปลา

Status Bar (แถบสถานะ)
คือแถบแสดงสถานะต่างๆในการทำงาน โดยจะแสดงในส่วนการแนะนำการใช้งานเครื่องมือต่างๆที่จะเปลี่ยนไปตามการทำงานและการใช้เครื่องมือแต่ละชนิด ใน Google SketchUp ตั้งแต่เวอร์ชัน 7 เป็นต้นมาได้มีการเพิ่มไอคอนในส่วนของการทำงานร่วม กับระบบออนไลน์เข้ามาไว้เพื่อให้สะดวกกับการแชร์ผลงานไปยัง Google 3D Warehouse และกำหนดตำแหน่งจริงบนแผ่นดินให้กับแบบจำลองด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมในส่วนของไอคอน Help ที่จะช่วยเรียกแสดงหน้าต่าง Instructor ขึ้นมาเพื่อแนะนำการใช้งานเครื่องมือต่างๆอีกด้วย

Dialog Boxes (กล่องเครื่องมือ)
Dialog Boxes จะมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อด้วยกันเช่น Window หรือ Panel ขอเรียกรวมๆว่าหน้าต่างเพื่อความกระชับ โดยจะมีลักษณะเป็นหน้าต่างเครื่องมือสำหรับปรับแต่งแก้ไขรายละเอียดในการทำงาน และกำหนดค่าต่างๆของโปรแกรม เช่น หน้าต่าง System Preferences จะเป็นหน้าต่างสำหรับกำหนดค่าต่างๆของโปรแกรม, หน้าต่าง Materials จะเป็นหน้าต่างที่รวบรวมเอาวัสดุต่างๆเพื่อนำไปใส่ให้กับพื้นผิวของโมเดล (นิยมเรียกกันว่าการใส่แมท), หน้าต่าง Shadow Settings จะเป็นส่วนสำหรับการกำหนดทิศทางของแสง/เงาเป็นต้น
การเรียกแสดงหน้าต่างแต่ละชนิดสามารถเรียกได้จากเมนู Window แล้วเลือกเปิดหน้าต่างที่ต้องการ โดยหน้าต่างที่เปิดอยู่ จะมีเครื่องหมายถูกกำกับไว้อยู่ที่หน้าคำสั่ง (เฉพาะหน้าต่างที่เกี่ยวกับการปรับแต่งโมเดล) และถ้ามีเครื่องหมายขีดอยู่ด้านหน้าจะหมายถึงหน้าต่างนั้นเปิดอยู่แต่ถูกย่อเอาไว้เหลือเพียงแถบไตเติล

Measurment Tool (เครื่องมือกำ􀀃หนดขนาด)
Measurment มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า VCB (Value Control Box) เป็นเครื่องมือสำหรับกำหนดค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความยาว ขนาด องศา ระยะ ให้กับการใช้งานเครื่องมือต่างๆซึ่งจะช่วยให้การสร้างแบบจำลองมีความแม่นยำ และได้สัดส่วนที่ถูกต้อง โดยรูปแบบการกำหนดค่าด้วย Measurment นั้นจะใช้วิธีการพิมพ์ตัวเลขลงไปในขณะที่ใช้เครื่องมือแต่ละชนิดอยู่โดยที่ไม่ต้องเอาเม้าส์ไปคลิกที่ช่องกำหนดค่า เช่นเมื่อเราต้องการวาดรูปสี่เหลี่ยมขนาด 5 x 5 เมตร เราจะใช้เครื่องมือ Rectangle วาดรูปสี่เหลี่ยม จากนั้นพิมพ์ค่าลงไปเป็น 5m,5m หรือ 5,5 (ในกรณีที่กำหนดหน่วยวัดเป็นเมตรไม่จำเป็นที่จะต้องใส่หน่วยวัดต่อท้ายตัวเลข) แล้วเคาะ Enter เราก็จะได้รูปสี่เหลี่ยมขนาด 5 x 5 เมตรเป็นต้น

การขึ้นโมเดลเก้าอี้แบบง่ายๆ
เพื่อให้คุ้นเคยกับการทำงานเบื้องต้นก่อนที่จะไปรู้จักกับการใช้งานเครื่องมือแต่ละชนิดอย่างละเอียดเราจะทำการขึ้นโมเดลเก้าอี้แบบง่ายๆ โดยในขั้นตอนการขึ้นโมเดลจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆในเบื้องต้นเช่น Line, Rectangle, Arc, Move, Tape Measure ไปจนถึงการใส่วัสดุให้กับพื้นผิวเป็นต้น

ขั้นตอนการขึ้นโมเดลเก้าอี้
1. สร้างรูปสี่เหลี่ยมขนาด 41 x 50 cm ด้วยเครื่องมือ Line (L) หรือ Rectangle (R)


2. ใช้เครื่องมือ Select (Spacebar) เลือกพื้นผิวด้านล่าง หรือกดคีย์ Ctrl+A
3. เลือกเครื่องมือ Move (M) กดคีย์ Ctrl หนึ่งครั้ง คลิกที่พื้นผิวแล้วลากขึ้นไปตามแนวตั้งห่างจากพื้นผิวเดิม 42 cm


4. ใช้เครื่องมือ Push/Pull (P) ดึงพื้นผิวด้านบนขึ้นไป 2 cm เราจะได้ส่วนที่เป็นแผ่นไม้สำหรับใช้เป็นแผ่นรองนั่งของเก้าอี้


5. ต่อไปเราจะทำขาเก้าอี้โดยใช้เครื่องมือ Offset (F) คัดลอกเส้นขอบของพื้นผิวด้านล่างเข้ามา 2 cm
6. ใช้เครื่องมือ Eraser (E) ลบเส้นรอบนอกทั้งสี่ด้านทิ้งไป



7. ใช้เครื่องมือ Rectangle (R) สร้างรูปสี่เหลี่ยมขนาด 6 x 6 cm ที่มุมทั้งสี่มุมของพื้นผิวด้านล่าง
8. ใช้เครื่องมือ Eraser (E) ลบเส้นขอบของพื้นผิวดานล่างทั้งสี่ด้านทิ้งไป



9. ใช้เครื่องมือ Arc (A) สร้างเส้นโค้งตามมุมต่างๆของรูปสี่เหลี่ยมทั้งสี่รูป แล้วใช้เครื่องมือ Eraser ลบเส้นที่ไม่ต้องการทิ้งไป เราจะได้แม่แบบสำหรับขึ้นขาเก้าอี้ทั้งสี่ขา




10. ใช้เครื่องมือ Push/Pull (P) ดึงขาเก้าอี้ด้านหน้าทั้งสองขาขึ้นไป 42 cm บรรจบกับพื้นผิวด้านล่างของแผ่นรองนั่ง
11. ใช้เครื่องมือ Push/Pull ดึงขาเก้าอีด้านหลังทั้งสองขาขึ้นไป 90 cm


12. ใช้เครื่องมือ Select (Spacebar) เลือกพื้นผิวด้านล่างและด้านบนของแผ่นรองนั่ง จากนั้นคลิกขวาเลือกคำสั่ง Intersect Face > With Model เพื่อใช้พื้นผิวที่เลือกทำ Intersect กับขาเก้าอี้ด้านหลังทั้งสองขา


13. ใช้เครื่องมือ Tape Measure (T) ลากเส้นไกด์จากขอบพนักพิงด้านล่างขึ้นไปด้านบน 19 cm
14. ใช้เครื่องมือ Rectagle (R) สร้างรูปสี่เหลี่ยมที่พื้นผิวด้านข้างของพนักพิงขนาด 2 x 4 cm
15. ใช้เครื่องมือ Select (Spacebar) เลือกพื้นผิวของรูปสี่เหลี่ยมในข้อ 14 แล้วใช้เครื่องมือ Move (M) กดคีย์ Ctrl หนึ่งครั้ง คัดลอกรูปสี่เหลี่ยมขึ้นไปด้านบน 7 cm
16. ใช้เครื่องมือ Push/Pull (P) กดคีย์ Ctrl หนึ่งครั้ง แล้วดึงพื้นผิวของรูปสี่เหลี่ยมทั้งสองรูปมาบรรจบกับพนักพิงอีกด้าน



17. ใช้เครื่องมือ Rectangle (R) สร้างรูปสี่เหลี่ยมขนาด 2 x6 cm ที่มุมด้านบนของพนักพิง จากนั้นใช้เครื่องมือ Push/Pull (P) ดึงพื้นผิวมาบรรจบกับด้านตรงข้าม
18. ใช้เครื่องมือ Push/Pull ดึงพื้นผิวด้านบนขึ้นไป 1 cm


19. ใช้เครื่องมือ Tape Measure (T) ลากเส้นไกด์จากขอบพนักพิงเข้ามาด้านใน 1 cm ทำเหมือนกันทั้งสองด้าน จากนั้นใช้เครื่องมือ Arc (A) สร้างเส้นโค้งที่มุมด้านบนทั้งสองด้าน
20. ใช้เครื่องมือ Push/Pull (P) ดันที่ขอบด้นบนของพนักพิงทั้งสองด้านออกไปเพื่อตัดขอบให้โค้งมน


 21. ใช้เทคนิดต่างๆข้างต้นทำการสร้างคานยึดขาเก้าอี้ทั้งสามด้าน (ด้านซ้าย ด้านหน้า และด้านขวา) โดยคานยึดจะมีหน้ากว้าง 4 cm และหนา 2 cm มีความยาวบรรจับกับขาเก้าอี้แต่ละด้าน วางในตำแหน่งสูงจากขาเก้าอี้ด้านล่างขึ้นมา 8 cm และห่างจากขอบแต่ละด้าน 1 cm
22. ใช้เครื่องมือ Arc (A) และเครื่องมือ Push/Pull (P) ทำการลบเหลี่ยมของแผ่นรองนั่งทั้งสี่มุม




23. เลือกเครื่องมือ Paint Bucket (B) เพื่อเปิดหน้าต่าง Meterials ขึ้นมา เลือกชุดรูปแบบวัสดุเป็น Wood แล้วเลือกวัสดุเป็น Wood_Cherry_Original จากนั้นกดคีย์ Ctrl ค้างไว้แล้วคลิกที่เก้าอี้
24. เลือกเมนู View > Shadow เพื่อให้มีการแสดงผลของเงา





Save, Save As, Save a Copy As และ Save As Template
การบันทึกไฟล์งานในโปรแกรม Google SketchUp จะมีอยู่ด้วยกัน 4 รูปแบบ สามารถเรียกใช้งานได้จากเมนู File
Save
คือลักษณะการบันทึกไฟล์งานแบบปกติทั่วไป
Save As...
คือการบันทึกไฟล์งานที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้นเป็นไฟล์ใหม่ โดยจะมีการตั้งชื่อไฟล์ใหม่และจะทำงานต่อกับไฟล์ใหม่
Save A Copy As...
คือการบันทึกไฟลืงานที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้นเป็นไฟล์ใหม่ โดยจะมีการตั้งชื่อไฟล์ใหม่แต่จะยังคงทำงานกับไฟล์งานเดิมอยู่
Save As Template
คือการบันทึกไฟล์งานเป็นแม่แบบเก็บเอาไว้เพื่อใช้เป็นแม่แบบในการสร้างงานในครั้งต่อไป

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก https://drive.google.com/file/d/0B-CnS7QDe4t_OEFuRktEenRneWs/edit